--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ ขอจงมีความเพียรที่บริสุทธ์ ปัญญาที่เฉียบแหลม กำลังกายที่สมบูรณ์ ”
อยากให้คนที่รักได้อ่านหนังสือเล่มนี้เพราะเนื้อหาภายในกล่าวถึงพระบรมราโชวาทที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้เป็นข้อคิดในการดำเนินชีวิต โดยมีหลักชัยคือความสุขสงบพอเพียงและไม่ท้อถอย อยากมอบหนังสือเล่มนี้ให้กับคนที่รักในเทศกาลปีใหม่ได้อ่านแล้วน้อมนำไปปรับใช้ เพื่อชีวิตสงบสุขมั่นคงยั่งยืน
ส่วนตัวแล้ว ดิฉันรู้สึกโชคดีที่ได้เกิดมาใต้ร่มพระโพธิสมภาร ได้มีพระองค์เป็นตัวอย่างให้ดำเนินรอยตาม โดยพระบรมราโชวาทของพระองค์ถือเป็นสิ่งมีค่าที่เราทุกคนควรน้อมนำมาใช้เป็นหลักการดำเนินชีวิตเพื่อความสุขและความมั่นคงของชีวิตอย่างยั่งยืน
“ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ”
นี่คือพระบรมราชโองการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่คนไทยในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อถึงวันนี้พระราชกรณียกิจซึ่งทรงกระทำ ทุกพระบรมราโชวาทล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของคนไทยทั้งสิ้น
นับเป็นโชคดีของพสกนิกรปวงชนชาวไทยทุกหมู่ เหล่า ที่ได้มีพระองค์ทรงเป็นหลักชัยเป็นตัวอย่างและให้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตหลายๆเรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นผู้ให้และผู้สร้างความสงบสุขแก่ประชาชนและแผ่นดินของพระองค์ พระองค์ทรงให้ประชาชนของพระองค์ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือคำว่า พอ คนเราถ้าพอใจในความต้องการ มันก็จะมีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็จะเบียดเบียนคนอื่นน้อย พอเพียงอาจมีมากมีของหรูได้ แต่ต้องไม่เบียดเบียนผู้อื่น
การประหยัดคือหลักประกันของชีวิต การใช้จ่ายอย่างประหยัดเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดและครอบครัวเพื่อให้อยู่รอดและก้าวหน้าต่อไป ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า ทั้งยังเป็นการประหยัดแก่ประเทศชาติด้วย
การให้คือเครื่องประสานไมตรี การให้เป็นสิ่งที่พึงประสงค์อย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องประสานไมตรีอย่างสำคัญระหว่างบุคคลกับบุคคลและให้สังคมมีความมั่นคงเป็นปึกแผ่นด้วยความสามัคคี
เอื้อเฟื้อมุ่งดีต่อกันสังคมก็จะร่มเย็นและน่าอยู่ สังคมใดก็ตาม ถ้ามีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน สังคมนั้นย่อมเต็มไปด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ มีความร่มเย็นเป็นสุขน่าอยู่
มีความสุจริตและความมุ่งมั่นจึงจะทำงานสำคัญได้สำเร็จ คนไม่มีความสุจริตไม่มีความมั่นคง ชอบแต่มักง่ายไม่มีวันที่จะสร้างสรรค์ประโยชน์ต่อส่วนรวมได้ ผู้มีความสุจริตและความมุ่งมั่นเท่านั้นจึงจะทำงานสำคัญยิ่งใหญ่ที่เป็นคุณประโยชน์แท้จริงได้สำเร็จ
สัจวาจาคือรากฐานของการประสบความสำเร็จ สัจวาจานั้นเป็นรากฐานของการทำงาน สัจ เป็นการตั้งใจ วาจา เป็นคำพูดออกมา แสดงถึงคำพูดนั้นออกมาจากใจคือเป็นการตั้งใจที่จะทำอะไรเพื่อความสำเร็จในงานนั้น
พัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเป็นลำดับเพื่อให้ชีวิตเป็นสุขรุ่งเรือง คนเรานั้นสำคัญอยู่ที่ควรจะได้ปรารภปรารถนาที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเป็นลำดับ เพื่อให้ชีวิตเป็นสุขและเจริญรุ่งเรือง
การพูดจริงทำจริงย่อมได้รับการยกย่องสรรเสริญ ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไรทำอย่างนั้นจึงจะได้รับความสำเร็จ การพูดแล้วทำคือการพูดจริงทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด
ความสงบหนักแน่นเป็นเครื่องผ่อนปรนระงับความรุนแรง ความขัดแย้งความไม่เข้าใจในกันและกัน โดยเฉพาะความสงบหนักแน่นในจิตใจนั้นทำให้เกิดความยั้งคิดพิจารณาตามเหตุตามผล จึงช่วยให้สามารถขบคิดวินิจฉัยเรื่องราวปัญหาและการกระทำได้ถูกต้องเหมาะสม มีประสิทธิผล
มีความรู้ความสามารถหากไม่ลงมือทำก็ไร้ประโยชน์ ประโยชน์หรือการสร้างสรรค์ในทางที่ดีนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยการลงมือทำ เมื่อยังไม่ลงมือทำประโยชน์ก็ยังไม่เกิด เพราะฉะนั้นหากมีความรู้ความสามารถมากมายเพียงไรแต่หากไม่ลงมือทำก็ปราศจากประโยชน์
มีความรู้ดีแล้วต้องมีศีลธรรมด้วย การดำเนินชีวิตจะใช้วิชาการอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ จะต้องอาศัยความรู้รอบตัวและหลักศีลธรรมประกอบด้วย ผู้ที่มีความรู้ดีแต่ขาดความยั้งคิดนำความรู้ไปใช้ทางมิชอบ ก็เท่ากับบุคคลที่เป็นภัยแก่สังคมมนุษย์
ความสุขความเจริญพึงแสวงหามาด้วยความเป็นธรรม ความสุขความเจริญอันแท้จริงนั้นแสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรมทั้งในเจตนาและการกระทำ ไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญหรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบังมาจากผู้อื่น
ความประมาทและการขาดสตินำมาซึ่งความเสื่อมสลาย มีความไม่ประมาทและมีสติรู้ตัวอยู่เสมอเพราะการกระทำโดยประมาทขาดความรอบคอบ เป็นเหตุให้เกิดความผิดพลาดเสียหาย ซึ่งเป็นอันตรายมากอาจจะนำความเสีย เสื่อมสลายมาสู่ตนเองตลอดทั้งประเทศชาติได้
ส่งเสริมให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย ไม่ใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดีให้คนดีได้ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีให้ไม่มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้
ที่กล่าวมานี้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือ 108 มงคล พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งดิฉันมีความตั้งใจจริงอยากมอบหนังสือดีๆที่ให้ข้อคิดแก่คนที่รักและทุกๆคนได้อ่าน จะมีประโยชน์อย่างมากหากอ่านด้วยความตั้งใจ หนังสือเล่มนี้บอกอะไรหลายอย่างแก่เรา พระบรมราโชวาททั้งหมดที่กล่าวมานั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราก็ทรงใช้ดำเนินชีวิตตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันเรื่อยมา
ตัวอย่าง 108 ข้อ
1.พอเพียง คือ อยู่ได้ด้วยตนเอง
ไม่เบียดเบียนใคร
...คำว่า พอเพียง มีความหมายว่า พอกิน เศรษฐกิจแบบพอเพียง หมายความว่า
ผลิตอะไรมีพอที่จะใช่ ไม่ต้องขอยืมคนอื่น อยู่ได้ดวยตนเอง แปลจากภาษาฝรั่งได้ว่า
ให้ยืนบนขาตัวเอง
หมายความว่าสองขาของเรายืนอยู่บนพื้นที่ได้ไม่หกล้มไม่ต้องขอยืมของคนอื่นเพื่อที่จะยืนอยู่
..คำว่า พอ คนเราถ้าพอในความต้องการมันก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อย
ก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย พอเพียงอาจมีมาก อาจมีของหรูก็ได้
แต่ต้องไม่เบียดเบียนคนอื่น..
2. การประหยัด คือหลักประกันของชีวิต
...การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้นจะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเองและครอบครัว
ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า
การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดี ไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น
ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย...
3. ประหยัด
เพื่อความอยู่รอดและก้าวหน้า
...วิถีทางดำเนินของบ้านเมืองและประชาชนโดยทั่วไปมีความเปลี่ยนแปลงมาตลอด
เนื่องจากความวิปริตผันแปรของวิถีแห่งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และอื่นๆๆ ของโลก
ยากยิ่งที่เราจะหลีกเลี่ยงให้พ้นได้ จึงต้องระมัดระวัง ประคับประคองตัวเรามากขึ้น
โดยเฉพาะในเรื่องการเป็นอยู่โดยประหยัด เพื่อที่จะอยู่ให้รอดและก้าวหน้า
ต่อไปได้โดยสวัสดี...
4.เพียรสร้างสรรค์ความดีความเจริญเพื่อประโยชน์และความสุข
....ความพากเพียรที่ถูกต้องเป็นธรรมและพึงประสงค์นั้น
คือความเพียรที่จะกำจัดความเสื่อมให้หมดไป
และระวังป้องกันมิให้เกิดขึ้นใหม่อย่างหนึ่ง
กับความเพียรที่จะสร้างสรรค์ความดีความเจริญให้บังเกิดขึ้นและระวังรักษามิให้เสื่อมสิ้นไปอย่างหนึ่ง
....ความเพียรทั้งสองประการนี้ เป็นอุปการะอย่างสำคัญต่อการปฏิบัติตน
ปฏิบัติงาน ถ้าทุกคนในชาติจะได้ตั้งตนตั้งใจอยู่ในความเพียรดังกล่าว
ประโยชน์และความสุขก็จะบังเกิดขึ้นพร้อมทั้งแก่ส่วนตัวและส่วนรวม..
5.กำลังแห่งความเพียร
นำไปสู่ความสำเร็จ
...ความเพียรที่จะเป็นกำลังได้ต้องมีลักษณะแข็งกล้า
ไม่ย่อหย่อนเสื่อมคลายด้วยอุปสรรค ด้วยความยากลำบากเหน็ดเหนื่อยประการใดๆๆ
หากแต่อุตสาหะพยายามกระทำเรื่อยไปไม่ถอยหลัง
แม้หยุดมือก็ยังพยายามติดต่อไปไม่ทอดธุระ
กำลังความเพียรจึงทำให้การงานไม่ชะงักล่าช้า มีแต่ดำเนินรุดหน้าเป็นลำดับไป จนบรรลุความสำเร็จโดยไม่มีสิ่งใดจะยับยั้งขัดขวางได้...
6. วิริยะอุตสาหะ ทำให้เป็นคนขยัน
อดทน และทำสิ่งที่ถูกต้อง
....ความอุตสาหะ หรือความกล้า เป็นคำที่สำคัญ ต้องกล้าเผชิญตัวเอง
เมื่อกล้าเผชิญตัวเอง กล้าที่จะลบล้างความขี้เกียจ เกียจคร้านในตัว
หันมาพยายามอุตสาหะก็ได้เป็นวิริยอุตสาหะ
วิริยะในทางที่กล้าที่จะค้านตัวเองในความคิดพิเรนทร์ ก็เป็นคนที่มีเหตุผล
เป็นคนที่ละอคติต่างๆๆ หมายความว่าเป็นคนที่คิดดี ที่ฉลาด
วิริยะในมางที่ไม่ยอมแม้แต่ความเจ็บปวดความกลัวจะมา คุกคามก็ทำสิ่งที่ถูกต้อง..
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันสอดคล้อง 9 ข้อพ่อสอนไว้ “นิสัยแห่งความดี” ด้านต่างๆ ดังนี้
1. ความเพียร คือ การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่สำคัญที่สุดคือความอดทนคือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้นทำมันน่าเบื่อ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง คือดูมันครึทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดีไม่ครึต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้าจะเห็นผลแน่นอนในความอดทนของตนเอง
2. ความพอดี คือ ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญก้าวหน้าในระดับสูงขึ้น ตามต่อกันไปเป็นลำดับผลที่เกิดขึ้นจึงจะแน่นอน มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน
3. ความรู้ตน เช่น เด็กๆ ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้ว จะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่จะสร้างความสำเร็จและความเจริญ ให้แก่ตนเองและส่วนรวมในอนาคตได้อย่างแน่นอน
4. คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายถึง คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้
5. อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ เช่น ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
6. พูดจริง ทำจริง คือ ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญ จากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม
7. หนังสือเป็นออมสิน คือ หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้สร้างมา ทำมา คิดมา แต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นคล้ายๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะทำให้ มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้
8. ความซื่อสัตย์ คือ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง
9. การเอาชนะใจตน เช่น ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่วว่าเสื่อม เราต้องฝืนต้องต้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ ให้ได้จริงๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้นๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น